วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

Color



C M Y K =คือ สีที่ใช้ในการพิมพ์ ส่วนใหญ่จะมี 4 สี ได้แก่ C=cyan (ฟ้าอมเขียว) M=magenta(แดงอมม่วง) Y=Yellow(เหลือง) และ K=Key(สีดำ) ซึ่งเป็นสีที่นำมาใช้ การผสมสีทั้งสี่นี้ จะทำให้เกิดสีได้อีกหลายสี นำมาใช้ในการพิมพ์เป็นส่วนใหญ่

R G B= คือ แสง สี ประกอบไปด้วย R=red(สีแดง) G=green(สีเขี่ยว) B=blue(สีฟ้า)


การใช้สีในดิจิตอล
-Hue = คือ ตัวสีหรือเนื้อสี
-Saturation = คือ เป็นตัวที่บอกความจัดจาดของสี
-Value = คือ คำน้ำหนักของสี


หลักการเลือกสี
-Monochromatic คือ การใช้สีสีเดียวที่สร้างความแตกต่างด้วยการสร้างระดับความสว่างความมืดของสี
-Triads คือ การใช้สี 3 สีที่อยู่ตรงข้ามกัน เพื่อสร้างความแตกต่าง
-Analogous คือ การใช้สีที่อยู่ติดกัน 3 สี
-Complementary คือ การใช้สีที่ตรงกันข้ามกันในวงจรสี ควรใช้สีดำเพื่อลดความรุนแรงของสี
-Split-complements คือ เป็นการใช้สีแบบผสมระหว่างสีโรเย็นและสีโทนร้อน

การใช้ตัวอักษร

Typo*
+ ความหาย

"Typography"
การใช้ตัวอักษรหรือการจัดวางตัวอักษร

"Font (TYPEFACES)"
ชุดรูปแบบของตัวอักษร

"Font FAMILIES"
ตระกูลของชุดแบบตัวอักษร เช่น ตัวธรรมดา ตัวหนา ตัวเอียง

Tyop*
+ส่วนประกอบ

Typo*
+ขนาด

Typo*
ประเภท
+Sans Serif (ไม่มีเชิง)
+Serif (มีเชิง)
+ Script (ลายมือ)
+Monospace (เป็นบลีอก เป็นช่องๆ)
+Movelty (แฟชั่น ตกแต่ง ประดับ)
+Dingbat Ornament (รูปสัญลักษณ์)

TYpo*
+การผสมอักษร
1.ตัวอัการไม่มีขาตัวหนาผสมกับตัวอักษรมีขาตัวบาง ตัวอักษรทั้งสอบแบบ มีความแตกต่างกันด้งยน้ำหนักและขนาด ทำให้เกิดความโด่นเด่นได้
2.ตัวอักษรตัวหนาประสมกับตัวอักษรไม่มีขาตัวบาง การผสมตัวอักษรแบบนี้ทำให้เกิดจุดเด่นของสัญลักษณ์อักษรได้ง่าย
3.ตัวอักษรไม่มีขาผสมกับตัวอักษรที่มีขา การผสมอักษรแบบนี้ไม่มีจุดเด่น เนื่องจากตัวอัการทั้งสองแบบไม่มีความแตกต่างกันด้วยน้ำหนัก//ไม่ควรใช้!!
4.ความแตกต่างอย่างชัดเจนของตัวอักษรแบบนี้ เหมาะสำหรับงานที่มีการพัฒนาแนวความคิด
5.เช่นเดียวกัน การผสมอักษรสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างหลากหลาย


Typo *
+การปรับระยะห่าง

Fount